Setting Interface VPX-500
SPLICE
กดปุ่ม “MENU” เพื่อเข้าไปยังหน้า main menu และเลือก “Splicing Mode” เพื่อเลือก splicing mode: 2×2、2×3、2×4、2×5、2×6、3×2、3×3、3×4、4×2、4×3、5×2、 M×N.
Note : M * N สามารถตั้งค่า Splice จอให้เป็น Video wall ได้อย่างอิสระเช่น 1x2 ไปจนถึง 1x12
LAYOUT
กดปุ่ม “MENU” เพื่อเข้าไปยังหน้า main menu เลือก “Image layout” และเลือกแสดงภาพจาก Inpurt Source ที่ต้องการ ( ตัวอย่าง Layout 1 = WIN1 - S1 คือ Layout 1 เปิดแสดงภาพ 1 หน้าต่างด้ายสัญญาณภาพขาเข้าช่องที่ 1 )
Note: สามารข้ามขั้นตอนนี้ได้ในกรณีที่ต้องการแสดงภาพแบบ Multi-Input
SCALER
กดปุ่ม “MENU” เพื่อเข้าไปยังหน้า main menu เลือก “Scaler” และเข้าไปหน้าตั้งค่า size และ position ของแต่ละหน้าต่างแสดงภาพ
Note: สามารถตั้งค่าตัวเลขได้สองวิธีคือ 1) ใช้ปุ่มหมุนเพื่อเพิ่มหรือลดค่าตัวลข สามารถกำหนดค่า “×1” “×10”“×100” เพื่อเพิ่มจำนวนตัวเลขให้มากขึ้น 2) สามารถใช้ปุ่มระบุตัวเลข 1 - 0 ที่หน้าตัวเครื่อง
SAVE
กดปุ่ม “MENU” เพื่อเข้าไปยังหน้า main menu เลือก “Save” โดยเมนูนี้สามารถบันทึกตั้งค่า Layout และ Input source ต่าง ๆ ไว้ใน Mode โดยสามารถบันทึกสูงสุด 32 Mode
Note: Mode 1 คือ default startup เมื่อเปิดเครื่อง ตัวเครื่องจะแสดง Layout ที่บันทึกไว้ใน Mode 1 เป็นอันดับแรก
LOAD
กดปุ่ม “MENU” เพื่อเข้าไปยังหน้า main menu เลือก “Load” เพื่อเข้าไปเรียกใช้งาน Layout ที่ได้บันทึกไว้ในแต่ละ Mode
Note : 1) ใช้ปุ่มลัด “M1-M4” ที่อยู่หน้าตัวเครื่องสำหรับเรียกใช้ Mode 1 ถึง Mode 4 เพื่อความรวดเร็วในการเรียกใช้งาน 2) กดปุ่ม MODE ที่หน้าตัวเครื่อง เพื่อไปทางลัดเขาไปยังเมนู LOAD
MSG-INPUT SIGNAL
ในเมนู MSG-Input Signal สามารถดูสถานะของสัญญาณภาพขาเข้าของแต่ละ Port ได้ว่ามีสัญญานภาพเข้ามาหรือไม่ โดยไปที่ ปุ่ม INFO ด้านหน้าตัวเครื่อง
WINDOW SWITCH
เมนูสำหรับเปลี่ยน Input Source ให้กับแต่ละหน้าต่าง โดยการเข้าเมนู Windows Switch ด้วยปุ่มลัด WIN ด้านหน้าตัวเครื่อง
ZOOM
เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลเฉพาะบางส่วนของสัญญานภาพขาเข้าโดยสามารถใช้ปุ่มลัด FUNC ด้านหน้าตัวเครื่องและเลือกเมนู ZOOM